กริยาช่วย 24 ตัว พร้อมเทคนิคจำง่าย นำไปใช้ได้ทันที

กริยาช่วย (Auxiliary Verbs หรือ Helping Verbs) เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การพูดและเขียนภาษาอังกฤษของเพื่อนๆ ชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถาม การปฏิเสธ หรือการบอกเวลา ในบทความนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับกริยาช่วย 24 ตัว ที่ใช้บ่อย พร้อมตารางคำอ่าน คำแปล และตัวอย่างประโยคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจและนำไปใช้ได้ทันทีเลยค่ะ

กริยาช่วยคืออะไร?

กริยาช่วย (Auxiliary Verbs) หรือที่เรียกว่า Helping Verbs คือคำกริยาที่ไม่สามารถแปลได้โดยตรง แต่มีหน้าที่ช่วยกริยาหลัก (Main Verb) เพื่อแสดงกาล (tense), รูปประโยค (voice), หรือแง่ของความสามารถ ความจำเป็น ฯลฯ เช่น is, am, do, can, will

ตัวอย่างการใช้กริยาช่วย

• She is eating lunch. (เธอกำลังกินข้าวกลางวัน)

• We have finished our homework. (พวกเราทำการบ้านเสร็จแล้ว)

กริยาช่วย (Auxiliary Verbs) มีกี่ประเภทกันนะ?

ในภาษาอังกฤษมีกริยาช่วยอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ที่เราจะเจอบ่อย ๆ ก็คือ

1. Primary Auxiliary Verbs

เป็นกริยาช่วยพื้นฐานที่ใช้บ่อยมาก ๆ ได้แก่  be, do, have ซึ่งแต่ละตัวสามารถเปลี่ยนรูปตามกาลและประธานได้ เช่น

• be → am, is, are, was, were
• do → do, does, did
• have → have, has, had

กริยาพวกนี้มักใช้ร่วมกับกริยาแท้ (main verb) เพื่อช่วยสร้างประโยคในรูปแบบต่าง ๆ เช่น

• I am working now. (ฉันกำลังทำงานอยู่)
• She has eaten already. (เธอกินไปแล้ว)
• We didn't go yesterday. (พวกเราไม่ได้ไปเมื่อวาน)

2. Modal Auxiliary Verbs

เป็นกริยาช่วยที่ใช้แสดงความสามารถ ความเป็นไปได้ ความจำเป็น หรือคำแนะนำ ประกอบไปด้วยคำเหล่านี้ can, could, will, would, shall, should, may, might, must, ought to, need, dare, used to

ตัวอย่างการใช้

• You should sleep early. (เธอควรนอนแต่หัวค่ำ)
• He can swim very well. (เขาว่ายน้ำเก่งมาก)
• We might be late. (พวกเราอาจจะมาสาย)

กริยาช่วยมีประโยชน์ยังไงบ้าง?

กริยาช่วยไม่ได้มีไว้แค่เสริมประโยคให้ดูยาวนะคะ แต่มีหน้าที่สำคัญมากในการช่วยสร้างประโยคให้ถูกต้องและชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะใน 3 กรณีนี้

1. ช่วยสร้างประโยคคำถาม (Questions)

แค่เอากริยาช่วยมาขึ้นต้นประโยค เราก็สามารถตั้งคำถามได้ทันที เช่น

• Do you like coffee?
  (คุณชอบกาแฟไหม?)
• Can she drive?
  (เธอขับรถได้ไหม?)

2. ใช้ในประโยคปฏิเสธ (Negatives)

แค่เติม not หลัง auxiliary verb ก็เปลี่ยนประโยคให้เป็นปฏิเสธได้เลย เช่น

• I don’t know.
  (ฉันไม่รู้)
• He can’t come today.
  (เขามาไม่ได้วันนี้)
• They haven’t finished yet.
  (พวกเขายังทำไม่เสร็จ)

3. ใช้แสดงกาลเวลา (Tense)

กริยาช่วยยังช่วยบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้น “เมื่อไหร่” ด้วยนะ เช่น

• She is working.
  (เธอกำลังทำงานอยู่) → Present Continuous
• They were watching a movie.
  (พวกเขากำลังดูหนังอยู่ตอนนั้น) → Past Continuous
• I will call you later.
  (ฉันจะโทรหาคุณทีหลังนะ) → Future Simple

รายชื่อกริยาช่วยทั้ง 24 ตัว พร้อมคำอ่านและคำแปล

ตารางแสดง 24 Auxiliary Verbs (Helping Verbs)

ความแตกต่างระหว่าง Auxiliary Verbs กับ Main Verbs

หน้าที่ต่างกัน

• Auxiliary verbs ช่วยขยายความ เช่น บอกกาลหรือความเป็นไปได้

• Main verbs แสดงการกระทำโดยตรง

ตัวอย่างเปรียบเทียบ

• He is running. (is = auxiliary, running = main verb)

• She can cook. (can = auxiliary, cook = main verb)

คำกริยาบางคำสามารถเป็นได้ทั้งสอง

• Have เช่น He has a car. (main verb)

• Have เช่น  They have finished. (auxiliary verb)

เทคนิคการจำง่ายๆ

• ต้องสังเกตหน้าที่ของคำในประโยค

• กริยาช่วยจะอยู่หน้ากริยาแท้เสมอ

• ประโยคไหน มีคำว่า “not” หรือเป็นคำถาม ลองสังเกตดูให้ดี ๆ มักจะมี auxiliary verb อยู่แน่ๆค่ะ

• และอย่าลืมว่ากริยาบางคำมีได้หลายบทบาทนะคะ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกริยาช่วย

Q: กริยาช่วยทุกคำต้องตามด้วยกริยาหลักไหม?
A: ใช่ กริยาช่วยจะไม่มีความหมายถ้าไม่ตามด้วยกริยาหลักค่ะ

Q: can กับ could ใช้ต่างกันอย่างไร?
A: can ใช้กับปัจจุบัน ส่วน could ใช้กับอดีต หรือในบริบทที่สุภาพกว่านะ

Q: must กับ have to ต่างกันไหม?
A: must แสดงความจำเป็นจากผู้พูด ส่วน have to คือความจำเป็นจากสถานการณ์ภายนอกจ้า

สรุปท้ายบท

กริยาช่วย (Auxiliary Verbs) หรือ Helping Verbs คือหัวใจของการสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่ชัดเจนและถูกต้อง ทั้งในรูปของคำถาม การปฏิเสธ และการแสดงกาลเวลา ด้วยจำนวนมากถึง 24 คำ การเข้าใจและฝึกใช้จะช่วยให้เพื่อนๆพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติและมืออาชีพมากขึ้นค่ะ