หลักการใช้ Present perfect tense เป็นหนึ่งในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคัญ ช่วยให้เราสามารถบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต หรือเชื่อมอดีตกับปัจจุบันได้อย่างชัดเจน บทความนี้จะอธิบาย Present perfect tense อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างประโยคและโครงสร้างที่เข้าใจง่าย เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

Present Perfect Tense คืออะไร
Present perfect tense คือ tense ที่ใช้บอกเล่าเหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต หรือเหตุการณ์ในอดีตที่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน
โครงสร้างประโยคของ Present perfect tense
โครงสร้างหลัก: S + have/has + V.3 (กริยาช่องที่ 3)
ตัวอย่างประโยคบอกเล่า:
- I have been to Canada. (ฉันเคยไปแคนาดา)
ตัวอย่างประโยคปฏิเสธ:
- I have not been to Canada. (ฉันไม่เคยไปแคนาดา)
ตัวอย่างประโยคคำถาม:
- Have you been to Canada? (คุณเคยไปแคนาดาไหม)
หลักการใช้ Present perfect tense
เล่าประสบการณ์ที่เคยผ่านมาในชีวิต
ใช้บอกว่าคุณเคยทำอะไรบางอย่างมาแล้วในชีวิต โดยไม่ได้ระบุเวลาที่แน่นอน
ตัวอย่าง:
- I have been to Canada. (ฉันเคยไปแคนาดา)
- She has traveled to many countries. (เธอเคยเดินทางไปหลายประเทศ)
เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและดำเนินมาถึงปัจจุบัน
ใช้บอกเหตุการณ์ที่ยังไม่สิ้นสุดในปัจจุบัน
ตัวอย่าง:
- I have lived in this house for 10 years. (ฉันอาศัยอยู่บ้านหลังนี้มา 10 ปีแล้ว)
- They have worked here since 2015. (พวกเขาทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี 2015)
โดยใช้คำว่า since กับจุดเริ่มต้นของช่วงเวลา หรือ for กับระยะเวลาที่ผ่านมา
- I have studied English since 2010.
- He has played football for 5 years.
เล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงในอดีต
เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นและผลของมันยังคงมีอยู่
ตัวอย่าง:
- She has just finished her homework. (เธอเพิ่งทำการบ้านเสร็จ)
- I have cleaned the house. (ฉันทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว)
เล่าถึงเหตุการณ์ที่ผลของมันส่งผลต่อปัจจุบัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังมีผลกระทบหรือความเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน
ตัวอย่าง:
- He has lost his keys. (เขาทำกุญแจหาย)
- They have missed the bus. (พวกเขาพลาดรถเมล์)
เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่ระบุเวลาที่แน่นอน
เหตุการณ์ในอดีตที่เราไม่ทราบเวลาที่เกิด
ตัวอย่าง:
- I have met her before. (ฉันเคยเจอเธอมาก่อน)
- She has received your letter. (เธอได้รับจดหมายของคุณแล้ว)
ตารางสรุปโครงสร้าง Present perfect tense และตัวอย่าง
ประเภทประโยค | โครงสร้าง | ตัวอย่างประโยค |
---|---|---|
บอกเล่า (Affirmative) | S + have/has + V.3 | I have finished my homework. |
ปฏิเสธ (Negative) | S + have/has + not + V.3 | She has not seen the movie. |
คำถาม (Interrogative) | Have/Has + S + V.3 ? | Have you eaten lunch yet? |
ความแตกต่างระหว่าง Present perfect กับ Past simple
ในภาษาอังกฤษ หลายคนสับสนระหว่างการใช้ Present perfect และ Past simple เนื่องจากทั้งสองแบบใช้เล่าเรื่องในอดีตได้ แต่มีความแตกต่างสำคัญคือ:
- Present perfect ใช้เล่าเหตุการณ์ที่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน หรือไม่ระบุเวลาที่แน่นอน
- Past simple ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วในอดีต โดยระบุเวลาชัดเจน
ตัวอย่างเปรียบเทียบ:
- I have visited Japan. (ฉันเคยไปญี่ปุ่น - ประสบการณ์ในชีวิต)
- I visited Japan last year. (ฉันไปญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว - เหตุการณ์ในอดีตที่จบแล้ว)
สัญลักษณ์และคำบอกเวลาที่ใช้กับ Present perfect tense
ในการใช้ หลักการใช้ Present perfect tense จะมีคำบอกเวลาหรือสัญลักษณ์ที่ช่วยบ่งบอกช่วงเวลาของเหตุการณ์ซึ่งทำให้ประโยคสมบูรณ์และชัดเจนมากขึ้น คำบอกเวลาที่นิยมใช้ ได้แก่:
Since — ใช้ระบุจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์หรือช่วงเวลา เช่น
- I have lived here since 2010.
For — ใช้ระบุระยะเวลาที่เหตุการณ์ดำเนินมา เช่น
- She has studied English for 5 years.
Just — ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
- They have just arrived.
Already — ใช้บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่คาดไว้หรือก่อนปัจจุบัน
- I have already eaten lunch.
Yet — ใช้ในประโยคคำถามหรือปฏิเสธ เพื่อถามหรือบอกว่าเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น (ส่วนใหญ่ใช้ท้ายประโยค)
- Have you finished your homework yet?
- I haven’t finished yet.
Ever — ใช้ในประโยคคำถามเพื่อถามว่าคนเคยทำอะไรบ้างในชีวิต
- Have you ever been to Paris?
Never — ใช้บอกว่าไม่เคยทำอะไรเลยในชีวิต
- I have never tried sushi.

ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำบอกเวลาใน Present perfect tense
- She has worked at this company since 2012.
- We have known each other for ten years.
- Have you ever visited Australia?
- He has just finished his project.
- They haven’t arrived yet.
สรุป
การใช้ Present perfect tense มักจะมีคำบอกเวลาช่วยระบุช่วงเวลาของเหตุการณ์ เช่น since ใช้บอกจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์, for ใช้บอกระยะเวลาที่เหตุการณ์ดำเนินมา, just ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น, already บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาคาด, yet ใช้ในประโยคคำถามหรือปฏิเสธว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่, ever ใช้ถามว่าคนเคยทำอะไรบ้างในชีวิต และ never ใช้บอกว่าไม่เคยทำอะไรเลย การใช้คำเหล่านี้ช่วยทำให้ประโยค Present perfect มีความชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

Sea