Future Simple Tense ใช้อย่างไร

Future Simple Tense คือโครงสร้างพื้นฐานในการพูดถึง "สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ เพราะใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่มีหลายบริบทที่ทำให้ผู้เรียนมักสับสน เช่น ควรใช้ will หรือ shall?จะแตกต่างจาก going to อย่างไร?ใช้กับคำถามและปฏิเสธยังไง?

โครงสร้างพื้นฐานของ Future Simple Tense

โครงสร้างประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence)

โครงสร้าง: Subject + will + base verb (V1)

ตัวอย่าง:

• I will travel to Japan next year.
  (ฉันจะเดินทางไปญี่ปุ่นในปีหน้า)

• She will call you later.
  (เธอจะโทรหาคุณภายหลัง)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence)

โครงสร้าง: Subject + will not (won't) + base verb (V1)

ตัวอย่าง:

• They won't come to the party.
  (พวกเขาจะไม่มางานปาร์ตี้)

• He will not join the meeting.
  (เขาจะไม่เข้าร่วมการประชุม)

โครงสร้างประโยคคำถาม (Interrogative Sentence)

โครงสร้าง: Will + subject + base verb (V1)?

ตัวอย่าง:

• Will you help me?
  (คุณจะช่วยฉันไหม?)

• Will it rain tomorrow?
  (ฝนจะตกพรุ่งนี้ไหม?)

โครงสร้างคำถาม Wh-Question

โครงสร้าง:
Wh-word + will + subject + base verb (V1)?

ตัวอย่าง:

• What will you do tomorrow?
  (คุณจะทำอะไรพรุ่งนี้?)

• When will she arrive?
  (เธอจะมาถึงเมื่อไหร่?)

Tips:

• ใช้ "will" กับประธานทุกตัว

• กริยาใช้รูป base verb เสมอ (ไม่เติม s หรือ ed)

• ย่อ "will not" ได้เป็น "won't"

ความแตกต่างระหว่าง Will และ Shall พร้อมตารางเปรียบเทียบ

Will ใช้เมื่อไหร่?

• ใช้กับประธานทุกตัว: I, you, he, she, it, we, they

• เหมาะกับการตัดสินใจทันที, การคาดการณ์, คำสัญญา และข้อเสนอ

ตัวอย่าง:

• I will help you. (ฉันจะช่วยคุณ)

• He will come tomorrow. (เขาจะมาวันพรุ่งนี้)

Shall ใช้เมื่อไหร่?

• ใช้กับ I และ we เท่านั้น

• พบบ่อยใน British English หรือบทสนทนา/เอกสารทางการ

• ใช้ในประโยคแนะนำหรือขอความเห็นอย่างสุภาพ

ตัวอย่าง:

• Shall we dance? (เราจะเต้นกันไหม?)

• I shall return. (ฉันจะกลับมา)

ตารางเปรียบเทียบ Will vs Shall

การใช้ Future Simple ในบริบทต่าง ๆ (สัญญา การตัดสินใจทันที คำทำนาย ฯลฯ)

การให้คำสัญญา (Promises)

• I’ll always love you.
  (ฉันจะรักคุณตลอดไป)

• We’ll never give up.
  (พวกเราจะไม่มีวันยอมแพ้)

การตัดสินใจทันที (Spontaneous Decisions)

• I’m tired. I’ll go to bed now.
  (ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันจะเข้านอนตอนนี้)

• I’ll answer the phone!
  (เดี๋ยวฉันจะรับโทรศัพท์เอง!)

คำทำนาย (Predictions)

• It will rain this evening.
  (ฝนจะตกเย็นนี้)

• People will live on Mars in the future.
  (ผู้คนจะอาศัยอยู่บนดาวอังคารในอนาคต)

การเสนอความช่วยเหลือ (Offers)

• I’ll carry the bags for you.
  (ฉันจะถือของให้คุณเอง)

• Don’t worry, I’ll help you with your homework.
  (ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยการบ้านให้นะ)

Q&A และสรุปเทคนิคการจำ Future Simple

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q: Will กับ Going to ต่างกันอย่างไร?
A: Will ใช้กับการตัดสินใจทันทีหรือคาดการณ์ ส่วน going to ใช้กับแผนที่เตรียมไว้แล้ว

Q: ใช้ shall ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันได้ไหม?
A: ได้แต่ไม่ค่อยนิยม จะใช้ will เป็นหลัก

Q: ใช้ will กับคำกริยาเติม -ing ได้หรือไม่?
A: ไม่ได้ Will ต้องตามด้วยกริยารูป V1 เท่านั้น เช่น will go, will eat, will play

Q: Will กับ Would ต่างกันอย่างไร?
A: Will ใช้พูดถึงอนาคตจริง ส่วน Would ใช้ในสถานการณ์สมมติ (Conditional) เช่น If I had time, I would travel.

Q: ใช้ will กับ passive voice ได้หรือไม่?
A: ได้ เช่น The letter will be sent tomorrow. (จดหมายจะถูกส่งในวันพรุ่งนี้)

เทคนิคจำง่าย

• จำว่า will = ความสมัครใจ / การทำนาย / คำสัญญา

• ใช้ will + V1 เสมอ ไม่มีการเติม s หรือ ed

• ใช้ won't แทน will not ในประโยคปฏิเสธ

สรุป

Future Simple Tense คือ หนึ่งใน Tense ที่ง่ายที่สุดในภาษาอังกฤษ ใช้ "will + V1" กับทุกประธาน เพื่อพูดถึงอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจ คำทำนาย หรือคำสัญญา การเข้าใจความแตกต่างของ will และ shall รวมถึงการใช้ในบริบทต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสื่อสารอย่างมั่นใจและชัดเจนในทุกสถานการณ์