การเติม s และ es เป็นพื้นฐานไวยากรณ์ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกระดับต้องรู้ โดยเฉพาะในการทำให้ คำนามเป็นพหูพจน์ และการใช้ คำกริยาในรูป present simple tense กับประธานเอกพจน์ แต่หลายคนมักสงสัยว่า คำไหนเติม s? คำไหนเติม es? ทำไมบางคำต้องเปลี่ยน y เป็น i? ใช้กับคำนามกับคำกริยาต่างกันอย่างไร? บทความนี้จะไขข้อสงสัยทั้งหมด พร้อม ตัวอย่างประโยค คำแปล ตาราง และบทสนทนา ครบถ้วนตามหลัก SEO
กฎการเติม s และ es กับคำนาม (Nouns)
เมื่อไรเติม s ธรรมดา เติม s ท้ายคำนามเมื่อเป็นพหูพจน์ทั่วไป โดยไม่เปลี่ยนรูป
ตัวอย่าง:
คำนามเอกพจน์ | พหูพจน์ | คำแปล |
---|---|---|
book | books | หนังสือ |
car | cars | รถยนต์ |
dog | dogs | สุนัข |
คำอธิบาย:
เติม s เมื่อคำนามลงท้ายด้วยพยัญชนะทั่วไป
ออกเสียง /s/ หรือ /z/ แล้วแต่คำ
Tips:
ใช้ได้กับคำทั่วไป
ไม่เปลี่ยนการสะกด
ใช้ได้กับคน สัตว์ สิ่งของ
เมื่อไรเติม es เติม es เมื่อคำลงท้ายด้วยเสียงที่ออกเสียง s, x, z, ch, sh
คำนามเอกพจน์ | พหูพจน์ | คำแปล |
box | boxes | กล่อง |
brush | brushes | แปรง |
buzz | buzzes | เสียงหึ่ง |
คำอธิบาย:
เพื่อให้ออกเสียงง่าย
ลงท้ายเสียง /s/, /z/, /ʃ/, /ʧ/ ต้องเติม es
Tips:
ใช้กับคำที่สะกดลงท้าย s, x, z, ch, sh
ทำให้พยางค์ออกเสียงง่ายขึ้น
การเติม s และ es กับคำกริยา (Verbs)
หลักการใน Present Simple Tense ใน Present Simple เมื่อประธานเป็นเอกพจน์ (he, she, it) กริยาต้องเติม s หรือ es
ประธาน | กริยา | คำแปล |
He | walks | เขาเดิน |
She | watches | เธอดู |
It | goes | มันไป |
คำอธิบาย:
เติม s ปกติ หากคำลงท้ายทั่วไป
เติม es หากกริยาลงท้ายด้วย s, x, z, ch, sh
ใช้กับประธานเอกพจน์เท่านั้น
ไม่เติม s/es กับ I, you, we, they
คำที่ลงท้ายด้วย o ก็เติม es เช่น go > goes
คำลงท้ายด้วย y
กฎ:
ถ้า y หน้าตัวอักษรเป็น พยัญชนะ → เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es
ถ้า y หน้าตัวอักษรเป็น สระ → เติม s ได้เลย
ตัวอย่าง:
คำกริยา | ประธาน | รูปที่เติม | คำแปล |
cry | he | cries | เขาร้องไห้ |
play | she | plays | เธอเล่น |
Tips:
-y หลังพยัญชนะ → เปลี่ยนเป็น -ies
-y หลังสระ → เติม s ปกติ
ข้อยกเว้นและคำพิเศษ (Irregular and Exceptions)
คำไม่เปลี่ยนรูป บางคำพหูพจน์ไม่เปลี่ยนเลย เช่น:
เอกพจน์ | พหูพจน์ | คำแปล |
sheep | sheep | แกะ |
deer | deer | กวาง |
คำเปลี่ยนรูปโดยไม่เติม s/es
เอกพจน์ | พหูพจน์ | คำแปล |
man | men | ผู้ชาย |
child | children | เด็ก ๆ |
foot | feet | เท้า |
Tips:
ต้องจำเป็นพิเศษ เพราะไม่มีกฎชัดเจน
พบได้บ่อยในบทสนทนาและข้อสอบ
ตัวอย่างบทสนทนาเกี่ยวกับการใช้ s และ es
ในบริบทห้องเรียน
A: Why did you write "goes" instead of "go"?
B: Because the subject is "he", so we need to add "es".
คำแปล:
A: ทำไมเธอเขียนว่า "goes" แทนที่จะเป็น "go"?
B: เพราะประธานคือ "he" เลยต้องเติม "es"
การพูดถึงกิจวัตรประจำวัน
A: My sister walks to school every day.
B: Mine goes by bus. She likes it.
คำแปล:
A: น้องสาวฉันเดินไปโรงเรียนทุกวัน
B: ของฉันนั่งรถบัสไป เธอชอบแบบนั้น
คำถามที่พบบ่อย (Q&A About s/es)
Q: เติม s/es ใช้กับคำนามหรือกริยา?
A: ทั้งสอง ใช้กับคำนามเพื่อทำให้เป็นพหูพจน์ และใช้กับกริยาใน Present Simple เมื่อประธานเป็นเอกพจน์
Q: คำว่า “watches” เติม es เพราะอะไร?
A: เพราะคำลงท้ายด้วย “ch” ต้องเติม es ตามหลักเสียง
Q: ทำไม “play” ไม่เปลี่ยน y เป็น i?
A: เพราะก่อน y มีสระ “a” จึงเติม s ได้เลย → plays
สรุปเนื้อหาและเทคนิคจำง่าย
สรุป:
เติม s กับคำปกติที่ไม่มีเสียงพิเศษ
เติม es กับคำลงท้าย s, x, z, ch, sh, o
คำลงท้าย y ต้องดูว่าหน้า y เป็นพยัญชนะหรือสระ
ใช้กับคำนามพหูพจน์ และคำกริยาประธานเอกพจน์
มีข้อยกเว้นบางคำต้องจำ
เทคนิคจำง่าย:
จำคำว่า “s, x, z, ch, sh go with es”
ดูตัวอักษรก่อน y ก่อนตัดสินใจเติม
ฝึกเขียนและพูดในประโยคจริง
Tips:
ฝึกจากตัวอย่างในชีวิตจริง
ใช้ flashcards จำคำพิเศษ
ฟังบทสนทนาแล้วจดคำที่มี s/es

Sea