is, am, are ใช้อย่างไร?

is, am, are คืออะไร? (อิซ, แอม, อาร์ คืออะไร?)

ความหมายพื้นฐาน

is, am, are เป็น Verb to be ซึ่งใช้เป็นกริยาช่วย (auxiliary verb) และกริยาแท้ (main verb) ในประโยค

ความแตกต่างของ is, am, are

Tips

• ใช้ is กับประธานเอกพจน์ (He, She, It)

• ใช้ am กับ I เท่านั้น

• ใช้ are กับประธานพหูพจน์ (You, We, They)

โครงสร้างประโยคที่ใช้ is, am, are

โครงสร้างพื้นฐาน

• ประโยคบอกเล่า : Subject + is/am/are + Complement

• ประโยคปฏิเสธ : Subject + is/am/are + not + Complement

• ประโยคคำถาม : Is/Am/Are + Subject + Complement?

ตาราง

ตัวอย่างประโยค is, am, are พร้อมคำอ่านและคำแปล

ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน

• He is tired. (ฮี อิซ ไทร์ด) = เขาเหนื่อย

• I am ready. (ไอ แอม เรดี้) = ฉันพร้อมแล้ว

• You are late. (ยู อาร์ เลท) = คุณมาสาย

• She is hungry. (ชี อิซ ฮังกรี) = เธอหิว

• They are friends. (เดย์ อาร์ เฟรนด์ส) = พวกเขาเป็นเพื่อนกัน

• It is raining. (อิท อิซ เรนนิ่ง) = ฝนกำลังตก

• I am happy to see you. (ไอ แอม แฮปปี้ ทู ซี ยู) = ฉันดีใจที่ได้เจอคุณ

ตัวอย่างในห้องเรียนและที่ทำงาน

• We are in the classroom. (วี อาร์ อิน เดอะ คลาสรูม) = พวกเราอยู่ในห้องเรียน

• She is on a break. (ชี อิซ ออน อะ เบรค) = เธอกำลังพักเบรก

• They are not available. (เดย์ อาร์ น็อท อะเวเลเบิล) = พวกเขาไม่ว่าง

• He is the manager. (ฮี อิซ เดอะ แมนเนเจอร์) = เขาเป็นผู้จัดการ

• I am in a meeting. (ไอ แอม อิน อะ มีตติ้ง) = ฉันกำลังประชุมอยู่

• You are doing a great job. (ยู อาร์ ดูอิง อะ เกรท จ๊อบ) = คุณทำงานได้ดีมาก

• We are working on a new project. (วี อาร์ เวิร์คกิ้ง ออน อะ นิว พรอเจกต์) = พวกเรากำลังทำโปรเจกต์ใหม่

• The files are ready. (เดอะ ไฟล์ส อาร์ เรดี้) = ไฟล์พร้อมแล้ว

บทสนทนาโดยใช้ is, am, are

บทสนทนาในชีวิตประจำวัน ตัวอย่าง

• A: Where are you? (แวร์ อาร์ ยู) = คุณอยู่ที่ไหน?
  B: I am at home. (ไอ แอม แอท โฮม) = ฉันอยู่ที่บ้าน
  
  
• A: Is he your brother? (อิซ ฮี ยัวร์ บราเธอร์) = เขาเป็นพี่ชายคุณหรือเปล่า?
  B: Yes, he is. (เยส ฮี อิซ) = ใช่ เขาเป็นพี่ชายฉัน
  
  
• A: Are you hungry? (อาร์ ยู ฮังกรี) = คุณหิวไหม?
  B: No, I am not. (โน ไอ แอม น็อท) = ไม่ ฉันไม่หิว
  
  
• A: It is very hot today. (อิท อิซ เวรี ฮอท ทูเดย์) = วันนี้อากาศร้อนมาก
  B: Yes, it is. (เยส อิท อิซ) = ใช่ ร้อนมากเลยวันนี้
  
  
• A: Am I late? (แอม ไอ เลท) = ฉันมาสายหรือเปล่า?
  B: No, you are on time. (โน ยู อาร์ ออน ไทม์) = ไม่ คุณมาตรงเวลาแล้ว

บทสนทนาในโรงเรียนและที่ทำงาน ตัวอย่าง

• Teacher: Are you ready for the test? (อาร์ ยู เรดี้ ฟอร์ เดอะ เทสต์) = คุณพร้อมสำหรับการสอบไหม?
  Student: Yes, I am. (เยส ไอ แอม) = ใช่ค่ะ/ครับ ฉันพร้อมแล้ว
  
  
• Manager: Is John in the office? (อิซ จอห์น อิน ดิ ออฟฟิศ) = จอห์นอยู่ในออฟฟิศไหม?
  Staff: No, he is not. (โน ฮี อิซ น็อท) = ไม่ครับ เขาไม่อยู่ในออฟฟิศ
  
  
• Teacher: Where is your homework? (แวร์ อิซ ยัวร์ โฮมเวิร์ก) = การบ้านของคุณอยู่ไหน?
  Student: It is at home. (อิท อิซ แอท โฮม) = มันอยู่ที่บ้านค่ะ
  
  
• Colleague A: Are the reports done? (อาร์ เดอะ รีพอร์ตส์ ดัน) = รายงานเสร็จหรือยัง?
  Colleague B: Yes, they are. (เยส เดย์ อาร์) = ใช่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว
  
  
• Supervisor: I am happy with your performance. (ไอ แอม แฮปปี้ วิธ ยัวร์ เพอร์ฟอร์แมนซ์) = ฉันพอใจกับผลงานของคุณ
  Employee: Thank you! I am trying my best. (แธงก์ ยู! ไอ แอม ไทรอิง มาย เบสท์) = ขอบคุณครับ/ค่ะ ฉันพยายามอย่างเต็มที่

การใช้ is, am, are ในประโยคคำถาม (Questions with is, am, are)

โครงสร้างประโยคคำถามเบื้องต้น

ในภาษาอังกฤษ เราสามารถใช้ is, am, are นำหน้าประธานเพื่อสร้างประโยคคำถาม เช่น:

กฎจำง่าย

• Is ใช้กับ He, She, It

• Am ใช้กับ I เท่านั้น

• Are ใช้กับ You, We, They

ตัวอย่างประโยคคำถามในสถานการณ์ต่าง ๆ

• Is it cold today? (อิซ อิท โคลด์ ทูเดย์) = วันนี้อากาศหนาวไหม?

• Am I allowed to go outside? (แอม ไอ อะเลาด์ ทู โก เอาท์ไซด์) = ฉันออกไปข้างนอกได้ไหม?

• Are we having lunch now? (อาร์ วี แฮฟวิ่ง ลันช์ นาว) = พวกเราจะทานอาหารกลางวันตอนนี้ไหม?

• Are you busy? (อาร์ ยู บิซซี่) = คุณยุ่งไหม?

• Is he your friend? (อิซ ฮี ยัวร์ เฟรนด์) = เขาเป็นเพื่อนคุณใช่ไหม?

• Are they in the meeting? (อาร์ เดย์ อิน เดอะ มีตติ้ง) = พวกเขาอยู่ในการประชุมหรือเปล่า?

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ is, am, are

Q: is, am, are ต่างกันอย่างไร?

A: ทั้งสามคำเป็น Verb to be ต่างกันที่ใช้กับประธานคนละตัว

• am ใช้กับ I

• is ใช้กับ He, She, It

• are ใช้กับ You, We, They

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้ is, am หรือ are?

A: ดูที่ประธานของประโยคเป็นหลัก เช่น

• I am Thai.

• She is a doctor.

• They are happy.

Q: is, am, are ใช้กับประโยคปฏิเสธอย่างไร?

A: เติม not หลัง is, am, are เช่น

• I am not tired.

• He is not here.

• They are not ready.

Q: is, am, are ใช้ในคำถามยังไง?

A: นำ is, am, are ขึ้นต้นประโยค เช่น

• Are you okay?

• Is it raining?

• Am I late?

Q: is, am, are ใช้กับ Passive Voice ได้ไหม?

A: ได้ เช่น

• The book is written by him. (หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยเขา)

• I am invited to the party. (ฉันได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้)

• They are respected by everyone. (พวกเขาได้รับความเคารพจากทุกคน)

สรุปการใช้ is, am, are แบบเข้าใจง่าย

การใช้ is, am, are เป็นส่วนหนึ่งของ Verb to be ซึ่งมีบทบาทสำคัญในภาษาอังกฤษ โดยใช้ตาม ประธานของประโยค เพื่อบอกสถานะ คุณลักษณะ หรือสภาพต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

• am ใช้เฉพาะกับ "I" เช่น
  I am a student. (ไอ แอม อะ สตูเดนท์) = ฉันเป็นนักเรียน

• is ใช้กับ He, She, It หรือสิ่งที่เป็นเอกพจน์ เช่น
  She is beautiful. (ชี อิซ บิวตี้ฟูล) = เธอสวย

• are ใช้กับ You, We, They หรือสิ่งที่เป็นพหูพจน์ เช่น
  We are ready. (วี อาร์ เรดี้) = พวกเราพร้อมแล้ว

นอกจากนี้ยังสามารถนำ is, am, are มาใช้ใน ประโยคปฏิเสธ ได้โดยเติม not เช่น

• I am not tired. (ไอ แอม น็อท ไทร์ด) = ฉันไม่เหนื่อย

• He is not here. (ฮี อิซ น็อท เฮียร์) = เขาไม่ได้อยู่ที่นี่

• They are not busy. (เดย์ อาร์ น็อท บิซซี่) = พวกเขาไม่ยุ่ง

และยังสามารถใช้ใน ประโยคคำถาม ได้โดยนำ is, am, are ขึ้นต้น เช่น

• Are you okay? (อาร์ ยู โอเค) = คุณโอเคไหม?

• Is she coming? (อิซ ชี คัมมิ่ง) = เธอกำลังมาหรือเปล่า?

• Am I late? (แอม ไอ เลท) = ฉันมาสายไหม?

การเข้าใจการใช้ is, am, are อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถ สร้างประโยคพื้นฐานได้อย่างมั่นใจ, พัฒนาทักษะการพูดและเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ไวยากรณ์ระดับสูงต่อไป เช่น Tense อื่น ๆ, Passive Voice, และ ประโยคซับซ้อน ได้ในอนาคต